สนธิรัตน์” ลั่น “สร้างอนาคตไทย” ส่ง 400 เขต ขายจุดแข็ง “ทีมเศรษฐกิจ” แกร่ง

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เผยความพร้อมพรรคสร้างอนาคตไทย เตรียมส่งครบ 400 เขต ยัน คัดสรรคุณภาพ จุดขาย ทีมเศรษฐกิจ แกร่ง มากประสบการณ์ ตอบโจทย์ปัญหาประเทศ

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่โรงแรมหรรษา กรุงเทพ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย พบปะสื่อมวลชน พร้อมเปิดเผยว่า พรรคสร้างอนาคตไทย ตั้งเป้าหมายส่งผู้สมัคร 400 เขต ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่เราได้ดำเนินการเตรียมการผู้สมัครได้ครึ่งหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายแล้ว เช่น กทม. สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมาก พรรคสร้างอนาคตไทย จึงใช้เวลาพอสมควรในการเตรียมพร้อมด้านผู้สมัคร โดยเน้นคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีตัวเลือกใหม่ๆมากขึ้น ไม่ให้ประเทศไทยติดเดดล็อกทางการเมือง โดยเชื่อว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมือง ไม่มีพรรคการเมืองใหม่ๆ รวมถึงไม่มีบุคลากรทางการเมืองใหม่ๆ การเมืองก็จะไม่ต่างจากเดิม

“เราคงส่งครบ 400 เขต เพราะต้องเตรียมคะแนนในส่วนของปาร์ตี้ลิสต์ด้วย ยกเว้นเราจะหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมไม่ได้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราพยายามคัดคนให้ดีที่สุด”

ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทย เปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็มียุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ก็เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางการเมือง ทุกพรรคพยายามหาจุดขายของตัวเอง สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย ต้องการเป็นตัวเลือกเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย โดยพรรคสร้างอนาคตไทย มีความพร้อมมากที่สุดคือทีมเศรษฐกิจ โดยการเลือกตั้งครั้งหน้า ปัญหาเศรษฐกิจจะเป็นประเด็นสำคัญ ดังนั้น พรรคสร้างอนาคตไทย จึงจะทยอยเปิดตัวบุคลากรทางด้านเศรษฐกิจ พร้อมกับนโยบายที่ผ่านการคัดกรองจากบุคลากรที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของพรรคสร้างอนาคตไทย เราเน้นเป็นพรรคมืออาชีพ

นายสนธิรัตน์ เปิดเผยว่า จะมีการประชุมใหญ่ประจำปีพรรคสร้างอนาคตไทย ในช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ โดยจะมีความชัดเจนในเรื่องของโครงสร้างพรรค ทั้งตำแหน่งต่างๆพร้อมเปิดตัวบุคลากรใหม่ๆของพรรค สำหรับโครงสร้างของพรรคสร้างอนาคตไทย จะเป็นการผสมผสานระหว่างนักการเมืองที่มีประสบการณ์ และนักการเมืองหน้าใหม่

ส่วนจะเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ยังมีเวลา และวันนี้ก็ยังไม่มีใครเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมพรรคก็จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ พรรคสร้างอนาคตไทยให้ความสำคัญกับคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯมากกว่าตัวบุคคล โดย 1.จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แก้ไขปัญหาของประเทศได้ มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา 2.มีประวัติการทำงานที่พิสูจน์ได้ สะอาด โปร่งใส 3.เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ

ถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แจ้งอาจยุบสภาหลังการประชุมเอเปค นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี แต่สถานการณ์ขณะนี้ทำให้หลายฝ่ายไม่แน่ใจว่าจะเกิดการยุบสภาขึ้นเมื่อใด แต่เชื่อว่านายกฯมีความพยายามจะนำพาประเทศไปจนกระทั่งพ้นการประชุมเอเปค พรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดการยุบสภาเมื่อใด แต่เราได้เตรียมการไว้แล้ว ไม่ว่าจะยุบสภาเมื่อได

และต่อคำถามที่ผู้สื่อข่าวเนื่องในโอกาสวันที่ 21 มี.ค.เป็นวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ กล่าวอวยพรว่า ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีความเข้มแข็ง ประสบความสำเร็จในการนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤต ในฐานะผู้ที่เคยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกฯ ขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วย เพราะนายกฯได้แบกภาระของประเทศไว้มาก ขอให้มีสิ่งดีๆที่คอยหนุนให้สามารถนำพาประเทศต่อไปได้