เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมที่ผ่านมา สภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR) ของอินเดียได้ทำการวิจัยศึกษาและสำรวจแอนติบอดี้ของชาวอินเดียต่อโควิด-19 ในช่วงวัย 6 ปีขึ้นไป
กลุ่มตัวอย่างครอบคลุมประชากร 28,975 คน จากกว่า 70 เขต ใน 21 รัฐทั่วประเทศ ซึ่งเป็นที่น่าตกใจว่ากว่าร้อยละ 67.6 หรือเกือบ 2 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างมีแอนติบอดี้ต่อไวรัสโควิด-19 จากการสำรวจทางซีรั่ม
ทั้งนี้กว่าร้อยละ 62 ของกลุ่มตัวอย่างนั้น เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ฉะนั้นผลการสำรวจนี้กำลังชี้ให้เห็นว่าการติดเชื้อของชาวอินเดียในช่วงการระบาดระลอกที่ 2 นั้น ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ แตกต่างอย่างชัดเจนจากการสำรวจในช่วงต้นปีที่มีเพียง 1 ใน 4 ของประชากรเท่านั้นที่ตรวจพบแอนติบอดี้
ทั้งนี้ บัลราม บาร์กาวา ผู้อำนายการทั่วไปของสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย ระบุเพิ่มเติมว่า “กว่าครึ่งหนึ่งของเด็กซึ่งมีอายุระหว่าง 6 – 17 ปี มีผลการตรวจเป็นบวก และตัวเลขดังกล่าวมีความคล้ายคลึงทั้งในเขตเมืองและชนบท”
ข้อมูลยังชี้ให้เห็นว่าหากการศึกษานี้สะท้อนภาพความเป็นจริงของสถานการณ์โควิด-19 ในอินเดีย มันมีความเป็นไปได้ว่ายังมีประชากรอีก 400 ล้านคนที่ยังคงมีความเสี่ยงต่อการระบาดในระลอกที่ 3 ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้
ตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างสอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาหลายคนที่มองว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินเดียนั้นอาจมีจำนวนมากกว่าตัวเลขทางการหลายเท่าตัว
โดยช่องว่างดังกล่าวเป็นผลอย่างสำคัญจากโครงสร้างพื้นฐานของอินเดีย ระบบการรายงาน จำนวนการตรวจหาเชื้อ ไปจนถึงระบบระเบียบทางราชการที่แตกต่างกันในแต่ละรัฐ
ยิ่งไปกว่านั้นยังคงมีชาวอินเดียอีกจำนวนมหาศาลที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ของภาครัฐ ซึ่งอาจให้คนเหล่านี้ตกสำรวจจากระบบทางการ โดยเฉพาะในเขตชนบท
เอกสารการศึกษาของสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งตีพิมพ์ในช่วงวันอังคารที่ผ่านมาเปิดเผยว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินเดียอาจมากกว่าตัวเลขทางการถึง 10 เท่าตัวในช่วงการระบาดใหญ่ที่ผ่านมา
แน่นอนว่าเอกสารชุดล่าสุดนี้ช่วยตอกย้ำปัญหาการรายงานตัวเลขที่เป็นปัญหาของอินเดียอย่างชัดเจน
อ่านเพิ่มเติม