เปิดพื้นที่ ก่อนไฟปะทุ ลุกลาม บานปลาย

“สุดท้ายแล้วทางออกของรัฐก็คือ การส่งทหารมายิงประชาชน” อาจารย์นิธิ กล่าว

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ชี้ว่าข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม 10 ข้อ ให้มีการปฏิรูปสถาบันฯ ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง นำมาซึ่งความกังวลว่าอาจทำให้การชุมนุมมีความรุนแรงมากขึ้น

เพราะศาลรัฐธรรมนูญ ปิดช่องทางการเคลื่อนไหวในข้อเรียกร้อง อันเป็นความต้องการร่วมของคนยุคใหม่ นั่นจึงเปรียบได้กับน้ำ ที่เดือดในหม้อ โดยไม่มีช่องทางระบาย สุดท้าย ก็จบด้วยการปะทุ ระเบิดออกมา

ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักคิด นักเขียน และศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ ให้สัมภาษณ์มติชนทีวี โดยเชื่อว่าความรุนแรงจะมีมากขึ้น เพราะคำวินิจฉัยของศาลธรรมนูญทำให้การที่สังคมจะเปลี่ยนแปลงโดยสงบนั้น มีน้อยลง

“มันแทบไม่มีโอกาสเหลืออยู่เลย สิ่งที่น่ากังวลคือการเปลี่ยนแปลงโดยความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทำให้รู้สึกว่าโอกาสที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงโดยสงบนั้นทำได้ยากแล้ว”

อาจารย์นิธิ เห็นว่า รัฐไทยไม่เคยพยายามหาทางออกจากความรุนแรงด้วยความสงบได้สักครั้งเดียว ยิ่งมาเจอกับคำวินิจฉัยของศาลล่าสุด ก็สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้ไม่มีทางจบอย่างอื่น สุดท้ายแล้วทางออกของรัฐก็คือ การส่งทหารมายิงประชาชน

ก่อนหน้านี้ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยสนับสนุนการเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเพื่อหาทางออกร่วมกัน

นักวิชาการรายนี้ มองว่า การแบ่งขั้วทางการเมืองไม่ใช่ปัญหาในระบอบประชาธิปไตย และถือเป็นสภาวะปกติของระบอบประชาธิปไตยด้วยซ้ำ แต่ปัญหาคือการไม่เปิดพื้นที่ให้ได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งจะนำไปสู่วาทกรรม การสร้างความเกลียดชัง และเกิดความรุนแรง

เขา เรียกร้องว่า ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันเพื่อให้สังคมหลีกเลี่ยงความรุนแรง เพราะการพูดคุยถือเป็นทางออกที่ดีกว่า

“ที่ผ่านมากระบวนการปรองดองไม่สามารถเกิดขึ้นได้อยากจริงจัง เพราะรัฐไม่เปิดพื้นที่ให้กว้างขึ้น ขณะเดียวกันรัฐเองก็ต้องไม่แทรกแซงในกระบวนการพูดคุย โดยต้องเปิดกว้างให้เป็นเวทีเพื่อหาทางออกอย่างแท้จริง”