วิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล ผุดนโยบาย “ทวงคืนสนามหลวง” ให้คนกรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 น. วันที่ 24 มี.ค.65 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม.พรรคก้าวไกล มีกำหนดการลงพื้นที่สนามหลวง เพื่อภารกิจทวงคืนสนามหลวงให้คนกรุงเทพฯ
วันที่ 23 มี.ค. 65 นายวิโรจน์ ร่วมการเสวนา “เลือกตั้งผู้ว่าฯ แก้ปัญหาคนกรุง” ณ หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทุกปัญหาใน กทม. คนที่แบกรับปัญหาทั้งหมดคือคนจนที่ไม่มีสิทธิเลือก ไม่มีอภิสิทธิมีบ้านเป็นของตัวเอง มีบ้านที่มีสวน มีรถยนต์ส่วนบุคคล ขณะที่สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่เข้าถึงได้ก็ถูกทิ้งร้างและไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร เช่น รถเมล์ เพราะไม่มีนายทุนได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน
“เมืองทั้งหลายในโลก คนจนคนรวยสามารถใช้บริการรถเมล์ได้เท่าเทียมเสมอหน้า ตรงกันข้ามกับกรุงเทพ ที่คนจนเมืองเท่านั้นที่ใช้บริการรถเมล์”
นอกจากนี้ นายวิโรจน์ ยังระบุว่า แนวทางการบริหารรถเมล์ของกรุงเทพผิดพลาด เพราะตั้งใจเอากำไรจากประชาชน ขณะที่เส้นทางรถเมล์ก็มีปัญหา สำหรับตัวอย่างวิธีแก้ปัญหารถเมล์ เพื่อทำให้คนหันมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชน คือ กทม. ต้องขออนุญาตจากกรมขนส่ง เพื่อเพิ่มเส้นทาง และควรอุดหนุนประชาชนด้วยตั๋วรายเดือน เพื่อบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจและช่วยคลี่คลายการจราจรที่ติดขัด เพราะหากระบบรถเมล์ดี มีเส้นทางเดินรถที่ดี จะช่วยสร้างย่าน สร้างเสน่ห์ของเมือง สร้างานกระจายโอกาสการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จากการเดินทางจับจ่ายใช้สอยและการค้าขายของคนกรุงเทพ
สำหรับปัญหาน้ำท่วม นายวิโรจน์ เสนอทางออกว่า การลอกท่อเป็นวิธีการแก้ปัญหาและเป็นเรื่องง่ายที่สุดในการเริ่มต้นจัดการน้ำท่วมใน กทม. เชื่อว่าจะเห็นผลมากกว่าการสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่และผลาญงบประมาณ ดังนั้น “ลอกท่อทั่วเมือง ลอกคลองทั่วกรุง” จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนในการจัดการน้ำท่วม
สำหรับปัญหาสุดท้าย การเพิ่มพื้นที่สีเขียว นายวิโรจน์ ชี้ว่า แม้แต่ สนามหลวง พื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของคนกรุงเทพ ปัจจุบันก็ถูกล้อมรั้วและทางเดินเต็มไปด้วยสิ่งกีดขวาง สำหรับตนจึงพร้อมคืนสนามหลวงให้คนกรุงเทพ นอกจากนี้ เรายังเห็นปัญหาจากกลวิธีเลี่ยงภาษี ด้วยการปลูกกล้วย ปลูกพืชไร่ ในที่ดินของนายทุน หรือการแบ่งที่ดินเป็นเส้นสปาเกตตี้ เพื่อลดราคาเลี่ยงภาษี ดังนั้น วิธีแก้คือเวนคืนที่ดินประเภทนี้เพื่อทำพื้นที่สีเขียว ทำสวนสาธารณะให้กับคนกรุงเทพทุกคน
“คนกรุงต้องการผู้ว่าฯ ที่เป็นผู้แทนของคนกรุงเทพ มีเจตจำนงที่จะทำให้คนกรุงเทพเท่าเทียมกันและคืนเมืองที่เป็นธรรม ผู้ว่าฯ ต้องไม่เป็นกลางท่ามกลางความขัดแย้ง แต่เป็นต้องตัวแทนยืนอยู่ข้างประชาชน” นายวิโรจน์ กล่าว