เว็บไซต์ Newsxtra สรุปข่าวการเมืองในรอบวัน ประจำวันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2565 ดังนี้
สมรักษ์ โต้ ชาวเน็ต :
“สมรักษ์ คําสิงห์” โต้ชาวเน็ต หลังถูกวิจารณ์หนัก เตรียมลง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ระบุ อย่าไปคิดอะไรมาก คนที่คอมเมนต์ว่าผม ขอให้คิดนิดนึงว่าผมไปทำผิดอะไรหรือยัง พอแก่ตัวมาแล้วก็อยากกลับไปพัฒนาท้องถิ่น คนที่บ้านผมก็สนับสนุนเยอะ เขารักผมอยู่ เขาก็สนับสนุนไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนขอให้ไปพัฒนาท้องถิ่น คนที่คอมเมนต์ว่าผมขอให้กลับไปดู ส.ส.ที่บ้านตัวเอง ว่าพัฒนาบ้านเกิดดีหรือยัง
“แรมโบ้” ลาออกพรรค :
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2565 โดยให้เหตุผลจากกรณีคลิปเสียงตนเองกับนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุ เพื่อเป็นบรรทัดฐานทางการเมือง และเพื่อให้ภาพพจน์ การขับเคลื่อนของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นไปในทางที่ดีในสายตาของประชาชน ไม่ให้เกิดความด่างพร้อย เสียหายต่อพรรคฯ และเกิดความลำบากใจต่อคณะกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ
เชียร์ ประวิตร เป็นนายกฯ :
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รับทราบดีว่า พล.อ.ประยุทธ์ บริหารบ้านเมืองล้มเหลว หากปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกต่อไปบ้านเมืองจะเกิดความเสียหายเกินจะเยียวยาได้ ในสภาพการณ์ปัจจุบัน ไม่มีบุคคลใดที่จะนำพาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในระบบรัฐสภาได้ มีแต่”ลุงป้อม”เท่านั้นที่เป็นบุคคลมากด้วยบารมี ที่จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากอำนาจได้ และหาก”ลุงป้อม”เป็นนายกฯเอง “น้องตู่”ก็หมดกังวลใจว่าจะไม่มีใครตามเช็คบิล แต่ถ้า”ลุงป้อม” ไม่กล้าเป็นนายกฯแทน”น้องตู่” ก็คงต้องร่วมรับผลกรรมที่”น้องตู่”ทำไว้กับบ้านเมืองทุกประการ
ทบ.ขอโทษ ทหารทำร้ายยาย :
กองทัพบก โดย พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก แสดงความเสียใจ กรณีที่ปรากฏข่าวคุณยายอายุ 71 ปี ผู้ขายลอตเตอรี่ เข้าร้องเรียนว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทกับทหารชั้นประทวนเกี่ยวกับการขายฉลาก บริเวณ ถ.ประชาธิปไตย แขวงบางขุนพรหม กทม. เมื่อวันที่ 27 เม.ย. จนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย โดยต้นสังกัดได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
สมศักดิ์ วางเป้าทำ พปชร.แข็งแกร่ง :
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ว่า เป้าหมายแรกคือการทำให้พรรคแข็งแกร่ง สร้างความรักความสามัคคี กลมเกลียว เป็นประการสำคัญอันแรก เมื่อเราทำได้พรรคจะมีพลัง บางทีคนอาจจะคิดถึงการมี ส.ส.จำนวนมาก มีคะแนนเสียงมาก แต่ตรงนี้คือปลายยอด เราควรทำตั้งแต่ ล่างสุดของลำต้นขึ้นมาแล้วไปปลายยอด สิ่งสำคัญคือ นโยบาย แนวคิดของพรรค ต้องโชว์ออกมาให้เห็น แต่วันนี้พรรคเรายังเป็นรัฐบาลอยู่ เราจะทำอย่างไรกับเวลาที่เหลืออยู่อีกเกือบ 1 ปี ให้ประชาชนรู้ว่าเราเป็นห่วงเป็นใย ต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง
