ยุโรปชะงัก ท่อส่งก๊าซรัสเซียรั่ว ดันราคาพลังงานสูงขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 27 กันยายน เจ้าหน้าที่ของยุโรปมีการสืบสวนกรณีการรั่วไหลของท่อส่งก๊าซรัสเซียทั้ง Nord Stream1 และ Nord Stream2 ขณะที่เยอรมนี เดนมาร์ก และสวีเดน ต่างกล่าวหาการกระทำที่เกิดขึ้นว่ามีสาเหตุมาจากถูกโจมตีและทำให้ท่อทั้งสองรั่วไหลเหนือทะเลบอลติกในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าใครอยู่เบื้องหลังการรั่วไหลในครั้งนี้มากนัก แต่ผู้นำยุโรปกลับออกมาพูดในทิศทางเดียวกันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้คือ “การก่อวินาศกรรม”
โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวว่า การรั่วไหลนั้นเกิดจากการโจมตีแบบกำหนดเป้าหมายที่โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์หรือเหตุการณ์ตามธรรมชาติ หรือการเสื่อมสภาพของวัตถุ
นายกรัฐมนตรีของสวีเดนและเดนมาร์ก กล่าวว่า การรั่วไหลเกิดขึ้นอย่างชัดเจนจากการกระทำโดยเจตนา โดยมีข้อมูลบ่งชี้ว่าน่าจะก่อวินาศกรรม ในขณะที่นายกรัฐมนตรีของโปแลนด์ตำหนิการก่อวินาศกรรม โดยไม่ระบุหลักฐานที่เกิดขึ้น
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้ยุโรปต้องหยุดชะงักทางด้านเชื้อเพลิงอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ลดการส่งมอบก๊าซไปยังยุโรปหลังจากตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อกรณีการบุกยูเครนของรัสเซีย และล่าสุดแม้รัสเซียจะเริ่มปล่อยก๊าซให้ยุโรปอีกครั้ง กลับเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ที่เกิดขึ้นโดยแหล่งข่าวระบุว่า พบการระเบิดของท่อ Nord Stream2 เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ต่อมาให้หลังอีก1 วัน พบการรายงานการระเบิดครั้งที่สองที่ท่อ Nord Stream1 อีกครั้ง
โดยนักแผ่นดินไหววิทยาในเดนมาร์กและสวีเดนกล่าวว่าพวกเขาได้ตรวจพบการระเบิดทั้งสองครั้งในบริเวณใกล้เคียงกับการรั่วไหล โดยพบว่า
“สัญญาณไม่เหมือนกับสัญญาณจากแผ่นดินไหว แต่คล้ายกับสัญญาณที่บันทึกจากการระเบิด” สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งเดนมาร์กและกรีนแลนด์ (GEUS) กล่าว
และนักแผ่นดินไหววิทยาที่มหาวิทยาลัยอุปซอลาของสวีเดน ซึ่งร่วมมือกับ GEUS กล่าวว่า การระเบิดครั้งที่สองที่ใหญ่กว่า “สอดคล้องกับไดนาไมต์มากกว่า 100 กิโลกรัม” โดยระบุว่าเป็นการระเบิดมาจากผิวน้ำไม่ได้อยู่ใต้ก้นทะเล
อย่างไรก็ตาม คริสโตเฟอร์ บอตเซาว์ หัวหน้าหน่วยงานด้านพลังงานของเดนมาร์กกล่าวว่าการรั่วไหลมีขนาดใหญ่มากและอาจต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์กว่าจะหยุดระบายออกจากท่อส่งน้ำ Nord Stream ตอนนี้ผิวน้ำทะเลเต็มไปด้วยก๊าซมีเทน ซึ่งหมายความว่ามีความเสี่ยงที่จะระเบิดในพื้นที่เพิ่มขึ้นและเรืออาจสูญเสียการลอยตัวหากเข้าไปในพื้นที่
สำหรับเหตุการณ์การระเบิดในครั้งนี้คาดว่าจะดันราคาพลังงานของยุโรปให้พุ่งขึ้นอีกครั้งท่ามกลางวิกฤตเงินเฟ้อและสภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการรั่วไหลของแก๊ซในครั้งนี้ถือเป็นอีกชนวนหนึ่งที่เร่งให้เศรษฐกิจในยุโรปเผชิญกับความยากลำบากในช่วงฤดูหนาวที่จะถึงนี้