คณะหลอมรวมประชาชน แถลงการณ์ รวมพลังหลอมรวมประชาชน หยุดระบอบ 3 ป. เพื่อนับหนึ่งประเทศไทย
วันที่ 30 ส.ค.2565 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ “ทนายนกเขา” อ่านแถลงการณ์พร้อมยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม ระหว่างถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ เพื่อความเหมาะสม โดยแถลงการณ์ระบุว่า
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมตินั้น เป็นการหยุดสภาวการณ์ชั่วคราวมิให้พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตนเป็น “นายกฯ เถื่อน” ที่ตั้งต้นมาจากการรัฐประหารเมื่อปี ๒๕๕๗ นั่นเอง อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ๓ ป. ยังคงผลัดไม้วางหมากครอบงำบ้านเมือง เดินเกมการเมืองเพื่อต่อท่ออำนาจที่ได้มาด้วยการรัฐประหารต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ๓ ป. ตั้งต้นด้วยกำลังทหารเข้ายึดอำนาจ จนเป็นข้อได้เปรียบที่นักการเมืองปกติไม่มี เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญ ทำประชามติ โดยกติกาที่ตนเองออกแบบขึ้น จึงเป็นแต้มต่อผ่านการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น ‘ระบอบ ๓ ป.’ จึงถูกสถาปนามาจากต้นทุนทางการเมืองที่ไม่เป็นปกติ ไม่ชอบธรรมจากการตั้งต้น เป็นการสะสมความได้เปรียบทางการเมือง
‘ระบอบ ๓ ป.’ คือต้นตอใหญ่ของ ‘พฤติกรรมฆ่าตัดตอนประชาธิปไตย’ ที่ยึดครองอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ผ่านกระบวนการ ยึดอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญ สืบทอดอำนาจ จัดการเลือกตั้ง และกระจายขุมกำลัง ใช้อำนาจผูกขาด แบ่งหน้าที่ในการ ‘ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ’ มาตั้งแต่ยุค คสช. จนถึงปัจจุบันเป็นเวลามากกว่า ๘ ปี จนสามารถครอบงำระบอบรัฐสภา และแทรกแซงองค์กรอิสระได้อย่างสิ้นเชิง
‘ระบอบ ๓ ป.’ คือต้นตอใหญ่ของการทำลายศักยภาพของประเทศไทย ผ่านการบริหารที่ผิดพลาดล้มเหลว ทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง หนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะที่พุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีหนี้นโยบายและหนี้กองทุนน้ำมันที่ซุกไว้อีกด้วย
‘ระบอบ ๓ ป.’ ทำลายศักยภาพของไทยในเวทีโลก เป็นรัฐบาลที่ไม่ทันเกม ไม่เจนจัดสนามการเมืองโลก ขาดลูกล่อลูกชน และทำลายหลักการวางตัวเป็นกลาง เพื่อรักษาสมดุลระหว่างประเทศ จนไทยไม่สามารถใช้เวทีเอเปคเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้ประเทศชาติได้อย่างเต็มที่
‘ระบอบ ๓ ป.’ ทำลายศักยภาพของประชาชน คือการทำลายเสรีภาพของคนไทยทุกคน ละเมิดสิทธิประชาชนด้วยคดีความที่เป็นการทำลายนิติรัฐ ทำลายกติกาของการอยู่ร่วมกันของสังคมไทย เพื่อรักษาอำนาจทางการเมืองของตัวเอง โดยเฉพาะที่สำคัญคือการแอบอ้างสถาบัน สูงสุด
จนถึง ณ วันนี้ ยังพบสัญญาณว่า พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ๓ ป. จะไม่ยอมสละอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่มีเจตนาชัดเจนที่จะสืบทอดอำนาจกันต่อไป ผ่านการควบคุมกลไกในรัฐสภาในการออกกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อชะลอไม่ให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยปกติ วางกลเกมการเมืองจนทำลายความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐสภา
เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ยอมหยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำให้เกิดสภาพอิทธิพลแทรกแซงทางการเมืองครอบงำควบคุมการทำงานของรัฐบาล/ทหารทุกเหล่าทัพ เกิดสภาพสองนายกรัฐมนตรีพร้อมกันเวลาเดียวกันในคณะรัฐมนตรีเดียวกัน ทั้งที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีนั้น ต้องไม่ใช่การได้มาด้วยการทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐
เมื่อได้พิจารณาถึงพฤติกรรมก่อนหน้าของพลเอกประยุทธ์ ในฐานะผู้ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว อาจมีการปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างไม่เหมาะสม ไม่สมควรให้เป็นคุณเฉพาะตัวเอง เข้าการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี เพื่อสร้างปัจจัยแวดล้อมทางการเมือง อันเป็นการทำลายระบบคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐
คณะหลอมรวมประชาชน จึงเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ควรยุติบทบาทในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในทันที เพื่อเป็นบรรทัดฐาน และสร้างมาตรฐานจริยธรรมทางการเมือง และยิ่งไปกว่านั้นถึงเวลาแล้ว ที่พลเอกประยุทธ์จะเกิดความสำนึกรู้ตัวว่า ควรจะยุติบทบาททางการเมือง เพื่อรักษาไว้ซึ่งหลักการพื้นฐานในระบบอบประชาธิปไตยมากกว่ารูปแบบและวิธีการ เพื่อให้ระบบการเมืองการเลือกตั้งกลับสู่ภาวะปกติ เพราะสมาชิกวุฒิสภา ๒๕๐ คนที่แต่งตั้งโดยหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือ พล.อ.ประยุทธ์นั่นเอง ยังมีอำนาจลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกวิจารณ์ถึงการสืบทอดอำนาจ และยังขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ
คณะหลอมรวมประชาชน ยืนยันว่า ทางออกทางการเมืองขณะนี้ คือ การหยุดอำนาจของคณะ 3 ป. เพื่อยุติระบอบการปกครองอำนาจนิยม หยุดการบริหารประเทศที่รัฐบาลเป็นเพียงตัวแทนกลุ่มผู้มีอำนาจที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน มุ่งอยู่กับการรักษาอำนาจของตนเอง และผลประโยชน์ของบางกลุ่มบางพวก หยุดการแทรกแซงองค์กรอิสระ องค์กรตรวจสอบต่างๆ จนไม่สามารถทำหน้าที่ให้กับประเทศชาติและประชาชน ทำเพียงหน้าที่แก้ปัญหาสำหรับข้อร้องเรียนของรัฐบาลเท่านั้น นอกจากนี้ การหยุดอำนาจของคณะ ๓ ป. ยังมีนัยสำคัญที่จะทำให้ทรัพยากรต่างๆ ของประเทศ โดยเฉพาะปิโตรเลียมกลับมาเป็นของประชาชน และเริ่มต้นประเทศไทยกันอีกครั้งหนึ่ง
คณะหลอมรวมประชาชน ขอย้ำว่า พลเอกประยุทธ์และคณะ ๓ ป. หมดเวลาแล้วที่จะทำลายชาติบ้านเมือง และถึงเวลาหลอมรวมของประชาชนคนไทยที่จะสามัคคีกัน ร่วมกันสลายระบอบ ๓ ป. เพื่อล้างบางการเมืองเก่าสร้างการเมืองใหม่ในวันนี้ และส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศไทยสู่ลูกหลานของเราต่อไป
นายจตุพร ยังกล่าวว่า การนัดชุมนุมครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.ย. 2565 และจะมีอีกในวันที่ 4 ก.ย.นี้ โดยจะเป็นพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจในเขตเมือง