ส่องธีม ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ปีนี้
หลังจาก กกต.ออกประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ในวันที่ 25 และเปิดรับสมัครเลือกตั้งในวันที่ 31 มี.ค.- 4 เม.ย. 2565 นั้น ปรากฏภาพของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้อาสาเข้ามาเป็นผู้ว่ากทม.คนที่ 17 หลังว่างเว้นการเลือกตั้งในพื้นที่นานถึง 9 ปีเต็ม หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.และจับหมายเลขผู้สมัครกันไปอย่างคึกคัก เสียงปี่กลองการเมืองดังขึ้นอีกคำรบ ผู้สมัครหลายท่านทยอยเปิดหน้าตาแสดงวิสัยทัศน์กันมาก่อนหน้าอยู่อย่างเนืองๆ ไม่ว่าจะตามบทสัมภาษณ์หรือวงเสวนาต่างๆ และคงพอจะสรุปถึงธีม (Theme) หลักของผู้สมัครได้พอสังเขป จึงขอถือโอกาสพาท่านผู้อ่านส่องธีมผู้สมัครผู้ว่าฯ เสาชิงช้า ปีนี้กัน
เริ่มต้นคนแรกในฟากฝั่งของผู้สมัครอิสระ อย่าง “อุเทน ชาติภิญโญ” เบอร์ 17 อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย และอดีตประธานกรรมการผันน้ำลงทะเลด้านตะวันออก เปิดตัวในนามอิสระ เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2562 โดยชูยุทธศาสตร์ “เปลี่ยนกรุงเทพฯ เมืองท่องเที่ยว ให้เป็นเมืองน่าอยู่” และมีสโลแกนว่า “ขอทำงานเพียง 500 วัน ทำไม่ได้ ได้ไม่ดี ผมลาออกทันที” มาในธีมสีเขียวเข้มประกอบสีเหลือง ผู้สมัครสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นและกางเกงขายาวในการหาเสียง วิสัยทัศน์เน้นการแก้ปัญหารถติด และการทุจริต
ผู้สมัครอิสระคนถัดมา “ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” เบอร์ 8 อดีตรมว.คมนาคมในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ขออาสาทำงานเมือง เจ้าของสโลแกน “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ซึ่งเปิดตัวทางการเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2562 มาในธีมหลักสีเขียวควบคู่ไปกับสีดำ ดังปรากฏบนเสื้อยืดสีดำสกรีนข้อความดังสโลแกน
วิสัยทัศน์การแก้ปัญหาของกทม. ดร.ชัชชาติ เน้นการแก้ปัญหาไปที่ “เส้นเลือดฝอย” ซึ่งเขาเปรียบถึงปัญหาใกล้ตัวซึ่งกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆ และมองว่าหากแก้ปัญหาตรงนี้ได้จะทำให้เมืองเข้มแข็งและยั่งยืนมากกว่าจะแก้จากเมกะโปรเจกต์จากส่วนกลางซึ่งเป็น “เส้นเลือดใหญ่” ที่ทำมาโดยตลอด
ผู้สมัครอิสระอีกท่านอย่าง “รสนา โตสิตระกูล” เบอร์ 7 อดีต ส.ว. กทม. ผู้ขออาสาเป็นหัวหน้าแม่บ้านกทม. เจ้าของสโลแกน “กทม. มีทางออกบอกรสนา” โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันแรกเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2562 ธีมหลักที่เลือกใช้เป็นสีเขียว ธีมหลักของรสนา จะเน้นไปที่เรื่องของ การแก้ปัญหาการไม่มีงานทำ พลังงานทดแทน โลกร้อน และความเหลื่อมล้ำ
อย่างไรก็ตามในหลากหลายวงเสวนาเธอมักสร้างภาพจำของเธอต่อการลงแข่งขันครั้งนี้ด้วยความเป็นผู้หญิงเป็นหลักควบคู่ไปกับการใช้งบประมาณที่ควรจะเป็น ดังคำสัมภาษณ์ที่เธอให้ไว้ว่า “ผู้หญิงถูกเปรียบเปรยว่าเป็นนักเศรษฐศาสตร์ในบ้าน : มีความละเอียดรอบคอบ “เราจะไม่ใช้เงินไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย แต่เราจะทำให้เงินที่มีอยู่อย่างจำกัด สามารถตอบสนองต่อความพึงพอใจของสมาชิกในครอบครัว”
.
ผู้สมัครอีกท่านซึ่งแรกเริ่มเปิดตัวเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 ลงกับพรรคไทยศรีวิไลย์อย่าง “ดร.ประยูร ครองยศ” เบอร์ 12 อดีตข้าราชการ กทม. ซึ่งขายจุดเด่นภายใต้ความเป็นข้าราชการ กทม. อาศัยประสบการณ์มาแก้ปัญหา สำหรับธีมหลักที่ใช้เป็นสีน้ำเงินแดง และตัวผู้สมัครเปิดตัวด้วยเชิ้ตขาวใส่ชุดสูท เนกไทสีแดงก่อนจะประกาศตัวอย่างเป็นทางการล่าสุดในนามอิสระ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2565
.
ผู้ขออาสาเป็น “นายช่างใหญ่” อย่าง พี่เอ้ “ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” เบอร์ 4 ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้สโลแกน “เปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้” เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2564 พร้อมกับเสื้อยืดสีขาวกางเกงขายาวเป็นภาพจำ ธีมหลักที่ใช้ในการหาเสียงเป็นสีฟ้าซึ่งเป็นสีประจำพรรค
วิสัยทัศน์การแก้ปัญหากทม.ของ “พี่เอ้” มองไปที่การแก้ไขระบบโครงสร้างใหญ่เน้นการใช้เมกะโปรเจกต์มาแก้ปัญหาอย่าง กรณีการสร้างแก้มลิงใต้ดินในกรณีน้ำท่วม หรือการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังขยายไปถึงการมองไปที่การแก้ไขระบบการศึกษา ระบบสาธารณสุขในกทม. การจ้างงานและการท่องเที่ยวโดยการกำหนดเป็นโครงการอย่าง “50 เขต 50 เทศกาล” เป็นต้น
ผู้สมัครในนามพรรคอีกคนอย่าง “วิโรจน์ ลักขณาอดิสร” เบอร์ 1 อดีต ส.ส. และว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ จากพรรคก้าวไกลซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2565 มาพร้อมสโลแกน “พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ” ธีมหลักเป็นสีประจำพรรคคือสีส้ม พร้อมด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงขายาว ออกลงพื้นที่สำรวจปัญหาในฐานะคนอาสาเป็น “ผู้จัดการเมือง/สำนักงาน กทม.” สำหรับวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาของวิโรจน์ คือ การชนกับทุกปัญหาเพื่อสร้างเมืองแห่งความเท่าเทียม การให้โอกาสกับคนจนเมืองหรือพื้นที่อื่นได้มีโอกาสเติบโตและมีสิทธิเทียบเท่ากับคนอื่นในกทม.
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เบอร์ 6 อดีตผู้ว่าฯ กทม. ลงสมัครในนามอิสระพร้อมด้วยทีมงานในพื้นที่อย่าง กลุ่มรักษ์กรุงเทพ มาในภาพชุดเชิ้ตสีขาวปักชื่ออัศวิน ขวัญเมือง ธีมหลักที่ใช้เป็นสีเหลืองน้ำเงินพร้อมการนำเสนอนโยบาย 8 ต่อ ภายใต้การขออาสาเป็นนักปฏิบัติ-นักประสานกับหน่วยงานต่างๆ ด้วยความมุ่งหวังเป็นผู้ว่าฯ อีกสมัยเพื่อสานงานต่อหรือเติมคะแนนอีกครึ่งหนึ่งให้สำเร็จดังคำสัมภาษณ์เมื่อวันเปิดตัวลงสมัครอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา สโลแกนหลักที่เน้นย้ำของเขามักเป็นคำว่า สานงานต่อให้สำเร็จ หรือ กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในบิลบอร์ดป้ายรถเมล์ที่ติดไว้เมื่อตอนเป็นผู้ว่าฯ
สกลธี ภัทธิยกุล หรือ จั้ม เบอร์ 3 อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ลงสมัครในนามอิสระ ซึ่งเปิดตัวมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2565 เช่นเดียวกัน เปิดตัวพร้อมการเสนอตัวเป็น “พ่อเมือง” ของคนกรุง ภายใต้สโลแกน “กทม. More” หรือ “กรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้” ภายใต้เสื้อยืดสีดำสกรีนสีเขียวปนฟ้าบนข้อความ วิสัยทัศน์หลักจะเป็นการเน้นการแก้ปัญหากรุงเทพ 6 ด้าน อย่าง ขนส่งสาธารณะ สาธารณสุข การศึกษา สิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการ เศรษฐกิจสังคมและการท่องเที่ยว
น.ต.ศิธา ทิวารี เบอร์ 11 ผู้สมัครจากพรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวด้วยธีมหลักสีน้ำเงิน พร้อมเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อพรรคสวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีกรมท่าเป็นภาพจำในการลงสมัครครั้งนี้ โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 มี.ค.65 ด้วยสโลแกน “ผมจะทำในสิ่งที่ผู้ว่า กทม. ไม่เคยทำ” พร้อมนโยบาย 3P “People (กระจายอำนาจให้ประชาชน) Profit (สร้างความมั่งคั่งให้ประชาชน) Planet (สร้างความยั่งยืนผ่านนโยบายทางสิ่งแวดล้อมให้ประชาชน)” เพื่อยกระดับกรุงเทพ ให้เป็นมหานครของโลก ที่คนทั่วโลกยอมรับ
ที่มา
– Thaipbs, “”อัศวิน” ชูนโยบาย 8 ด้าน “กรุงเทพต้องไปต่อ” สู้ศึกผู้ว่าฯ กทม.”,https://news.thaipbs.or.th/content/314054
– บีบีซีไทย, “เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. : สกลธี ภัททิยกุล ประเมินจุดแข็ง-จุดอ่อนตัวเอง หลังลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ ในนามอิสระ”, https://www.bbc.com/thai/thailand-60857131
– บีบีซีไทย, “เช็กความแข็งแกร่ง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้อาสาสร้างเมืองให้แข็งแรง”, https://www.bbc.com/thai/thailand-60617036
– บีบีซีไทย, “เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. : โฟกัสของ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ท่ามกลางวาทกรรม-คำปรามาส,https://www.bbc.com/thai/thailand-60702969
– ประชาชาติธุรกิจ, “สุดารัตน์ เปิดตัว ศิธา ชิงผู้ว่า – ส.ก. 50 เขต ประกาศสร้างกรุงเทพให้น่าอยู่”, https://www.prachachat.net/politics/news-898648
– สยามรัฐออนไลน์, “”อุเทน” ลุยหาเสียง “ผู้ว่าฯกทม.” พร้อมสำรวจปัญหา-รับฟังความเห็นชาวกรุง”, https://siamrath.co.th/n/127596