วิกฤตเครดิตสวิส ป่วนซ้ำเศรษฐกิจโลก

วิกฤตเครดิตสวิส ป่วนซ้ำเศรษฐกิจโลก

ความเสี่ยงด้านเครดิตของ Credit Suisse Group AG หรือธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งถือเป็นหนึ่งในถาบันการเงินที่มีความสำคัญต่อระบบการเงินโลก (G –SIB) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะที่หุ้นของบริษัทแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ ตามมาด้วยความวุ่นวายต่อนักลงทุนจำนวนมากหลังจากที่ธนาคารพยายามสร้างความมั่นใจให้กับตลาดเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินที่ได้รับผลย้อนกลับ

ICE Data Services ระบุว่า อัตราความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ หรือ เครดิตสวอป (Credit Default) ของตราสารอายุ 5 ปี ของธนาคารเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี อยู่ที่ 293 BPS เพิ่มขึ้นจาก 55 BPS เมื่อต้นปีและสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ขณะเดียวกันหุ้นของสถาบันร่วงลงมากถึง 12% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นมูลค่าที่สูญเสียไปประมาณ 60% สำหรับปีนี้แค่ปีเดียว และถือเป็นการลดลงประจำปีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Credit Suisse

แม้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ulrich Koerner พยายามทำให้สถานการณ์ความปั่นป่วนและความเชื่อมั่นนี้สงบลงและกลับมาในภาวะปกติมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าผลที่ออกมากลับตรงตรงกันข้าม และออกมายอมรับว่าขณะนี้บริษัทกำลังเผชิญกับ “ช่วงเวลาวิกฤติ”

นอกจากนี้ ยังระบุถึงการประกาศแผนกลยุทธ์ใหม่ในวันที่ 27 ต.ค. เพื่อแก้ไขสถานการณ์ Credit Suisse ได้ส่งประเด็นพูดคุยไปยังผู้บริหารของธนาคารสวิสเพื่อเจรจากับนักลงทุนรายใหญ่และสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขาท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของผู้ให้กู้

สำหรับความเชื่อมั่นดังกล่าวเริ่มตกต่ำและลดลงอย่างต่อเนื่องและมีผลต่อสภาพคล่องทางการเงินต่อธนาคารหลังจากOCCRP องค์กรที่รายงานเรื่องอาชญากรรมและการคอรัปชั่น โดยความร่วมมือกับเครือข่ายผ่านโครงการ Suisse Secrets มีนักข่าวราว 163 คน 48 สำนักข่าวจาก 39 ประเทศ

อาทิ The Guardian, The New York Times, Prachatai ฯลฯ ออกมาเปิดโปงข่าวไม่ชอบมาพากล จากข้อมูลที่ใช้เวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลรั่วดังกล่าวจากเครดิตสวิสด้วย กว่า 18,000 บัญชี ถือครองทรัพย์สินราว 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท

โดยผู้ ระบุว่ากฎหมายเก็บความลับของธนาคาในสวิสนั้นผิดศีลธรรมเนื่องจากบทบาทที่ธนาคารเป็น คือสิ่งที่น่าละอายทั้งความพยายามหลบเลี่ยงภาษี ตลอดจนเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมและถือเป็นแหล่งฝากเงิน dirty money จากข้อมูลพบว่า ลูกค้าทั้งหมดราว 1.5 ล้านคนมีข้อมูลลูกค้ารั่วไหลมากกว่า 30,000 คนทั่วโลก เกือบ 200 บัญชีที่มีสินทรัพย์มากกว่า 100 ล้านฟรังก์สวิสหรือประมาณ 3.5 พันล้านบาท

แม้ว่าระดับการผิดนัดชำระหนี้ของเครดิตจะยังห่างไกลจากความลำบากและเป็นส่วนหนึ่งของการขายออกในตลาดในวงกว้าง แต่ก็บ่งบอกถึงการรับรู้ที่เสื่อมถอยของความน่าเชื่อถือทางเครดิตของธนาคารที่โดนเรื่องอื้อฉาวในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ขณะนี้มีโอกาสประมาณ 23% ที่ธนาคารจะผิดนัดชำระหนี้ภายใน 5 ปี

เหตุการณ์ดังกล่าวจึงถือเป็นเหตุการณ์ใหญ่อีกครั้งของระบบการเงินโลกหากธนาคารเครดิตสวิสแห่งนี้ขาดสภาพคล่องและผิดนัดชำระหนี้อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกขนานใหญ่ ทั้งนี้หน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินแห่งสวิสเซอร์แลนด์ หรือ FEMA และธนาคารกลางอังกฤษ เปิดเผยร่วมกันว่า กำลังติดตามสถานการณ์ของธนาคารเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี อย่างใกล้ชิด และร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารดังกล่าว